ชอบ “เย็บผ้า”ช่วยฝึกอะไรให้คุณบ้าง ?

การเย็บผ้า งานอดิเรกที่หลายคนเลือกทำหรืออาจได้ศึกษากันมาในช่วงวัยเรียน หรือบางคนนำมาสร้างเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตัวเอง เพราะเป็นพื้นฐานในการตัดและออกแบบเสื้อผ้าต่างๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการเย็บผ้านั้นช่วยฝึกทักษะอื่นๆให้อีกด้วยด้วย วันนี้ JOBTOPGUN จึงอยากจะแชร์ให้คุณทราบว่าดนตรี กีฬา และงานอดิเรกแต่ละประเภทจะช่วยฝึกฝนทักษะความสามารถเรื่องใดให้คุณบ้าง ทักษะเหล่านี้คุณควรมีโดยที่คุณอาจจะยังไม่รู้ตัว ซึ่งผลการวิเคราะห์นี้มาจากงานวิจัยของท็อปกันร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามถึงกว่า 20,000 คน มาดูกันว่าคนที่ชอบย็บผ้าเป็นคนแบบไหน!

1. อดทน
อดทนในการต้องนั่งทำให้เสร็จ และการเย็บผ้าที่มีหลายแบบ เช่นการด้น การสอย การเย็บแบบสก็อตติส ฯลฯ การที่เย็บหลายแบบนี้ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกัน ดังนั้นเมื่อเราทำเสื้อ 1 ตัว เราจะต้องเย็บเนาก่อนแล้วมาเย็บด้น แล้วจึงสอยชาย บางทีอาจจะเย็บแบบสก็อตติส เพื่อตกแต่งดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่วุ่นวายมาก ถ้าเราไม่มีความอดทนเราก็จะเย็บผ้าไม่ได้ บาง ครั้งต้องทนต่ออาการเข็มทิ่มมือ ด้ายบาดมือ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของการเย็บผ้า

2. สุขุมเยือกเย็น
การเย็บผ้าต้องมีความใจเย็น เพราะการจะทำงานแต่ละชิ้นจะต้องใช้เวลา บางอย่างอาจต้องเริ่มต้นจากผ้าชิ้นเดียว กว่าที่จะออกมาเป็นชิ้นงานหนึ่งนั้นต้องผ่านขั้นตอน ทั้งการร่างแบบ ตัดผ้า และเย็บ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความสุขุม แม้กระทั่งขั้นตอนการเย็บเอง หากเกิดข้อผิดพลาดอาจต้องมานั่งแก้ตรงจุดๆนั้นใหม่ ถ้าไม่ใช่คนที่มีความสุขุมเยือกเย็นก็อาจจะทำให้งานออกมาไม่ได้ หรือได้ไม่ดีการใช้เวลาว่างกับการเย็บผ้า ได้ใช้ความคิดของเราสร้างสรรค์งานชิ้นหนึ่งๆขึ้นมา ทำให้อยู่กับมันได้ไม่รู้เบื่อ ไม่สนใจอะไรที่วุ่นวายใจเรา ทำให้เกิดสมาธิขึ้น อย่างที่ปกติจะเป็นสมาธิสั้น การได้อยู่กับการเย็บผ้า หรือแม้แต่ได้ลงมือซ่อมแซมเสื้อผ้าด้วยมือของเราเองบ่อยๆ จึงน่าจะส่งผลต่อสมาธิและจิตใจของเราได้ดีขึ้น

3. มีความคิดสร้างสรรค์
การเย็บผ้าต้องใช้จินตนาการในตัวเราถ่ายทอดออกมาให้เป็นชิ้นงานที่สามารถใช้ได้จริง บวกกับทักษะความรู้ความสามารถในด้านการเย็บผ้า เมื่อเรามีทั้งจินตนาการบวกกับความรู้แล้ว เราจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ออกมาได้ดี ดังนั้นในการเย็บผ้าเราต้องใช้ความ คิดสร้างสรรค์เพื่อที่จะได้ผลงานที่หลากหลายมากขึ้นเราสามารถที่จะทดลองทำอะไรก็ได้ในสิ่งที่เราต้องการจะทำหรืออยากให้เป็น โดยเราสามารถที่จะพัฒนางานใหม่ๆออกมาได้โดยที่ไม่ซ้ำกับผู้อื่น และสามารถทำอะไรได้หลายๆอย่าง นอกเหนือจากเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เช่นอาจจะทำกระเป๋าผ้า ตุ๊กตา พวงกุญแจ รองเท้าหรือสิ่งประดิษฐ์อีกหลายๆอย่างที่ทำจากผ้า

4.ตรวจสอบความถูกต้องในทุกรายละเอียด
และเมื่อทำการเย็บผ้าอย่างเป็นระบบแล้วนั้น ก็จะมีการตรวจสอบความถูกต้อง หลังจากการเย็บผ้า ซึ่งก็เหมือนการตรวจทานความถูกต้องของการทำงาน ถ้ามีข้อผิดพลาดก็จะนำมาแก้ไข และปรับปรุง ซึ่งทั้งหมดนี้ยังสามารถทำให้เกิดการพัฒนาตนเองในด้านอื่นๆมากมายการเย็บผ้า เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ตั้งแต่เริ่มก็คือวัดตัวผู้สวมใส่ วาดแบบ วาดแบบบนผืนผ้า การตัดผ้า รวมถึงการเย็บประกอบเป็นชิ้นงานขึ้นมา ทุกขั้นตอนล้วนต้องอาศัยความเอาใจใส่ในรายละเอียด ทุกขั้นตอนเพราะถ้าพลาดแม้เล็กน้อย เสื้อผ้าที่ออกมาก็จะไม่เป็นอย่างที่ร่างแบบไว้ และผลเสียก็คือผู้สวมใส่ใส่ไม่ได้ หรือถ้าใส่ได้ก็อาจจะไม่พอดี

5. คิดอย่างมีหลักการ
เมื่อเราต้องการตัดเสื้อหนึ่งตัว ก่อนอื่นเราต้องคิดถึงวัตถุประสงค์ก่อนว่า เราต้องการจะใช้เสื้อตัวนั้นกับงานอะไร จะต้องคิดถึงการออกแบบที่เหมาะสมกับงานนั้นๆ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาเรื่อง เนื้อผ้า สีผ้า ราคาและองค์ประกอบอื่นๆ ที่จะใช้กับเสื้อตัวใหม่ เช่น จะใส่กับกางเกงหรือกระโปรงตัวไหน รองเท้า เข็มขัด กระเป๋ า สร้อย ฯลฯ หลังจากที่ได้แบบเสื้อและวัสดุที่จะใช้แล้ว ก็ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์นิดหน่อยในการสร้างแพทเทิร์น การวางผ้าให้ ประหยัดเนื้อผ้ามากที่สุด วางแผนในการเย็บจะเริ่มจากชิ้นไหนก่อน ระหว่างการทำงานต้องมีการตรวจสอบผลงานเป็นระยะ เมื่อผิดพลาดจะได้แก้ไขได้ทัน เวลา พอเสร็จเป็นตัว ให้ลองใส่ดูก่อนว่าพอดีไหม ถ้าไม่ต้องแก้ไขแล้ว ก็เก็บรายละเอียดเป็นอันเสร็จ สรุปได้ว่า การเย็บผ้าสามารถคิดเป็นหลักการได้ดังนี้ 1. กำหนดวัตถุประสงค์ของงาน 2.ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ 3. ประเมินผลงาน การเย็บผ้าเบื้องต้นต้องเริ่มจากการสร้างแบบก่อนและต้องคำนวณค่าต่างๆ ตั้งแต่สัดส่วน ผู้สวมใส่และ สัดส่วนของผ้า เพราะถ้าคำนวณผิดเมื่อวางแบบลงที่ผ้าก็อาจจะทำให้เสียรูป ทรง และผลเสียที่ตามมาก็คือไม่สามารถสวมใส่ได้ เพราะฉะนั้นต้องคิดอย่างเป็นหลักการ และต้องคำนวณให้ถูกต้องมากที่สุด

6. กล้าที่จะลองผิดลองถูก
ในการเย็บผ้า เราสามารถลองผิดลองถูกในการเย็บได้ เพื่อที่จะค้นหาวิธีการเย็บที่สะดวก ง่ายที่สุดและดีที่สุดสำหรับตนเอง เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างชิ้นงานชิ้นต่อไปได้ ดังนั้นในการเย็บผ้า ทำให้เกิดการกล้าที่จะลองผิดลองถูก เพราะเมื่อทำผิดแล้วเราจะหาวิธีแก้สิ่งผิดพลาดนั้น เพื่อให้เกิความถูกต้องในอนาคตในการเย็บผ้านั้น บางคนอาจจะไม่ต้องเรียนที่สถาบัน ก็สามารถที่จะลองผิดลองถูกเอง แล้วนำมาปรับปรุงให้ได้รูปแบบที่เราต้องการได้ และจะช่วยพัฒนาด้านความคิด การจดจำและการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ และอาจได้ชิ้นงานใหม่ๆออกมาด้วย

7. รอบคอบ
การเย็บผ้าให้เสร็จทันเวลาจะต้องดูรวมไปถึงความเรียบร้อยของชิ้นงานนั้นๆ ว่าสมบูรณ์หรือไม่ ต้องตรวจสอบความเรียบร้อยว่าตะเข็บเย็บเรียบร้อยหรือไม่ มีเข็มค้างอยู่ที่ผ้าหรือไม่ และต้องมีความรอบคอบก่อนนำส่งชิ้นงานให้แก่ลูกค้า หรือก่อนนำมาสวมใส่ เพื่อมิให้เกิดผลเสียตามมา การเย็บผ้าพัฒนาทักษะด้านนี้เป็นอย่างมากเพราะการเย็บผ้าต้องใช้ความละเอียดรอบคอบมาก เพราะถ้าไม่ละเอียดรอบคอบแล้วอาจจะทำให้งานเสียได้ หรืออาจจะบาดเจ็บจากอุปกรณ์เย็บได้

8. มุ่งทำงานให้เสร็จตามเป้าหมาย
การเย็บผ้านั้นบางส่วนอาจจะต้องใช้เวลามากน้อยต่างกันไป บางชิ้นงานอาจต้องใช้เวลาเยอะ ซึ่งถ้าคนไม่ชอบที่จะเย็บผ้าอาจเกิดความเบื่อหน่ายว่าเมื่อไหร่งานจะออกมาเป็นรูปร่างให้เห็น และก็อาจจะล้มเลิกความพยายามไปส่วนคนที่ชอบเย็บผ้านั้น อาจจะต้องมีความมุมานะ มุ่งมั่นที่จะให้งานออกมาตามที่คาดหวังหรือตามแบบที่เราวางไว้ การพัฒนาตนเองในด้านการมุ่งมั่นมีความพยายาม และอุตสาหะแม้สิ่งที่ต้องการนั้นอาจจะได้มาด้วยความยากเย็น

9. ทำงานเป็นระบบ
การกำหนดขั้นตอนในการเย็บผ้าเป็นเรื่องสำคัญมากในโรงงานเย็บผ้าจะแยกเป็นแผนก แต่ละแผนกก็เย็บเพียงส่วนเดียว ดังนั้นขั้นตอนในการเย็บอาจไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ถ้าเราเย็บเองทั้งตัว เราต้องรู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนจึงจะทำให้การทำงานง่ายขึ้น และชิ้นงานออกมาดูเรียบร้อย สวยงาม

10. สามารถทำทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วงได้
การเย็บผ้าให้ได้สำเร็จนั้นต้องใช้ความพยายามอดทนในการนั่งเย็บ และตัดผ้าประกอบให้เป็นชิ้นซึ่งก็ทำให้เห็นว่าถ้าสามารถเย็บผ้าให้สำเร็จได้ก็น่าจะสามารถทำทุกอย่างได้สำเร็จลุล่วงได้การเย็บผ้า ต้องใช้วิธีการเย็บผ้าหลากหลายชนิด ต้องใช้วิธีการเย็บเหล่านั้นมารวมกันจึงสามารถทำให้งานลุล่วง ฉะนั้นคนที่ชอบเย็บผ้าจึงสามารถทำงานทุกอย่างให้ลุล่วงได้

+ ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ
การเย็บผ้าทำให้เราเป็นคนที่ไม่เคยล้มความตั้งใจ เพราะการเย็บผ้าต้องเย็บให้เสร็จ ถ้าไม่เสร็จงานนั้น ก็จะไม่สมบูรณ์และไม่สามารถนำไปต่อยอดอีกต่อไปได้

+ ขยัน
การเย็บผ้าจะต้องมีความขยัน เพื่อให้งานออกมาตามที่ตั้งใจไว้ ถ้าไม่ขยันก็จะไม่สามารถที่จะทำให้สำเร็จได้

+ เป็นนักลงมือปฎิบัติ
หากไม่ลงมือปฏิบัติ Idea ที่คิดไว้ก็จะไม่เป็นรูปเป็นร่าง ต้องลงมือทำจริงถึงผลออกมาไม่ดี ก็ยังดีกว่ายังไม่ได้สิ่งของที่เป็นรูปเป็นร่าง การเย็บผ้าเน้นการลงมือปฏิบัติมากกว่าการวางแผน เพราะสามารถทำตามแบบได้ จึงจะได้ผลของงานออกมา

หากคุณเป็นคนมีงานอดิเรกชอบเย็บผ้า สามารถเข้าไปอัพเดตดนตรี กีฬา งานอดิเรก (Competency) ผ่าน Super Resume ของคุณได้เลย ที่นี่ เพื่อให้คุณรู้จักตัวตนของคุณมากขึ้นผ่านงานอดิเรกที่คุณทำ หรือหากคุณยังไม่มีเรซูเม่ ลงทะเบียนสมัครสมาชิกฟรีพร้อมทำเรซูเม่ได้ง่ายๆ ที่ www.superresume.com

สมัครงานกับบริษัทชั้นนำทันที สร้าง Super Resume (ใบสมัครงาน) เลย ฟรี!

คำค้นหายอดนิยม

..